ปั้น Startup ให้โตเร็ว ด้วยโครงการ Accelerator

April 12, 2019
Pat Thitipattakul

มีไอเดียเด็ด  แต่ไม่รู้ทำยังไงให้เกิด

อยากหาผู้ช่วย  สร้างธุรกิจให้โต เข้าถึงฐานลูกค้าหลักล้าน พร้อมเงินลงทุนเริ่มต้น

Accelerator ตอบโจทย์คุณได้! โครงการ Accelerator หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ เป็นโครงการที่จัดขึ้นมาเพื่อช่วยให้ startup ที่เพิ่งเริ่มต้นสามารถพัฒนามาเป็นธุรกิจจริงได้

หัวใจหลักที่เป็นจุดมุ่งหมายของโครงการ Accelerator คือ การมอบเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างธุรกิจให้แก่ทีมผู้ก่อตั้ง startup ทุกคนทราบดีว่าการทำ startup ให้รอด เติบโตเอาชนะอุปสรรคและคู่แข่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก อย่างที่เคยได้ยินกันว่ามี startup มากกว่า 90% ที่ล้มเหลว ดังนั้นโครงการ Accelerator ต้องการที่จะเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มเพื่อช่วยลดอุปสรรคเหล่านั้น ช่วยให้ startup ที่มีศักยภาพเติบโตไปต่อได้ง่ายขึ้น

เข้า Accelerator แล้ว Startup จะได้อะไรบ้าง?

สิ่งที่ทางผู้จัดโครงการมองว่าจำเป็นในเบื้องต้น มี 4 อย่างหลักๆ ได้แก่

1. คำแนะนำแบบ 1 ต่อ 1 จาก Mentor ที่มีประสบการณ์เคยทำ startup มาแล้ว และมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งเรามองว่าจะเข้ามาช่วยชี้ทางให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นได้ดีมาก ได้เรียนรู้แบบทางลัดจากประสบการณ์ของผู้ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จแล้ว

ในโครงการ dtac accelerate ก็มี mentor อย่าง


คุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้ง Ookbee Startup Icon ที่เริ่มต้นจากธุรกิจอีบุ๊คด้วยพนักงาน 5 คน สู่ธุรกิจ Media ระดับพันล้าน ครองใจวัยรุ่นไทยทั่วประเทศ

คุณโบ๊ท ไผท ผดุงถิ่น ผู้ก่อตั้ง Builk ซึ่ง startup รุ่นบุกเบิก ที่พลิกโฉมวงการรับเหมาก่อสร้างด้วย Software/Technology ขยายไปไกลแล้ว 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณแชนนอน กัลยาณมิตร ที่ได้ฉายาว่าเป็น Queen of eCommerce ผู้ก่อตั้งธุรกิจออนไลน์ระดับ inter อย่าง Orami ที่ได้ exit ขายกิจการไปแล้ว และปัจจุบันบริหารกองทุน Gobi Partners ขนาดหมื่นล้านที่ลงทุนใน startup ทั่วเอเชีย

คุณณธิดา รัฐธนาวุฒิ เจ้าของ MarketingOops ก่อตั้งในปี 2008 เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการทำ media และ marketing ก่อนหน้านี้เคยสร้าง startup exit ขายกิจการไปแล้ว 2 บริษัท และอีกหลายท่าน

จะเห็นได้ว่า mentor แต่ละท่านจะมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน ซึ่งเรามองว่าการจับคู่ mentor เข้ากับ startup ที่ทำเรื่องนั้นๆ จะช่วย startup ได้อย่างมาก

หรืออย่างโครงการ StormBreaker EdTech Accelerator ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะ startup ด้านการศึกษา เน้นไปที่การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาการศึกษาไทย เราก็จะเชิญ mentor ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอย่าง Michael Staton Partner ของ Learn Capital กองทุนที่ Silicon Valley ที่ลงทุนใน EdTech อย่าง Coursera, Udemy และ ดร.สมเกียรติ ประธานของ TDRI ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีการทำวิจัยเรื่องการปฎิรูปการศึกษาไทยโดยเฉพาะ

2. ให้เงินลงทุนเริ่มต้น ซึ่งส่วนมากก็จะแลกกับหุ้นจำนวนหนึ่ง เรท standard พื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 5-10% และหลังจบโครงการก็จะมีการช่วย connect กับนักลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อระดมทุนรอบถัดไป ซึ่งตรงนี้โดยทั่วไปหาก startup ไปนัดเองต้องรอคิวนานกว่าจะได้พบ แต่ถ้ามีโครงการ Accelerator ช่วยแนะนำให้จะช่วยเพิ่มโอกาสได้เยอะมาก และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ startup ด้วย

3. ช่วยประชาสัมพันธ์ PR และช่วย connect กับบริษัทใหญ่ๆ ที่มีโอกาสมาเป็น partner หรือ ลูกค้าองค์กรได้ การที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มต้น อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เราเข้าใจดีว่าค่าใช้จ่ายในการโฆษณาค่อนข้างสูง โครงการ Accelerator จึงต้องการเข้ามาช่วย startup ทำสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยการช่วยประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ทั้งการจัดงาน event เชิญสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และโปรโมทออนไลน์ เพื่อช่วยเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สร้างแบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการทำงานร่วมกับองค์กรใหญ่

4. การให้ความรู้เรื่องแนวคิดและวิธีการทำงานแบบ startup ซึ่งจะมีความต่างจาก SME หรือบริษัทใหญ่ๆ เพราะ Startup จะเน้นที่ความเร็วในการพัฒนา Product ในแนวคิดแบบ (Build - Measure - Learn) เน้นการสร้าง นำไปทดสอบ วัดผล เรียนรู้ แล้วมาทำต่อ Metrics ในการวัดผลก็แตกต่างจากธุรกิจแบบอื่นๆ รวมถึงมีสอน Product Design ไปจนถึงการระดมทุน

ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับวิธีการแบบนี้ ไม่ต้องกังวลไป ในโครงการ Accelerator จะมีสอน ครอบคลุมหัวข้อสำคัญๆ ที่จะช่วยในการเร่งการเติบโต และยังได้ลองทำจริง โดยมีคนช่วยแนะนำตลอดโครงการ

ใครกันที่เหมาะกับการเข้าโครงการ Accelerator ?

คนที่เหมาะสำหรับการเข้าร่วมโครงการ Accelerator มี 2 แบบ ได้แก่  

  1. แบบ Idea Stage คือคนที่มีไอเดียน่าสนใจ เพิ่งเริ่มทำมาได้นิดเดียว อาจจะยังไม่มี product ยังไม่มีลูกค้า ซึ่งคนที่อยู่ใน stage นี้ถ้าจะไปขอเงินลงทุนจากนักลงทุน VC (Venture Capital) จะยากมาก ไม่ค่อยมีใครอยากลง idea stage เพราะเสี่ยงมาก ในฐานะ VC เราคิดว่าไอเดียใครๆ ก็มีได้ แต่คนที่ทำได้ดีจริงมีไม่คน ก่อนตัดสินใจให้เงินลงทุน เราอยากจะเห็นผลงานก่อนสักนิดว่ามันดีจริง และมันมีโอกาสโตได้อีก เพราะฉะนั้นการมาเข้าโครงการ Accelerator ก็เป็นหนทางนึงที่จะช่วยให้ก้าวจาก idea stage ที่มีแค่ไอเดีย ให้ออกมามี product พอมีลูกค้าบ้าง เพื่อที่จะได้มีโอกาสระดมทุนจาก VC ต่อไปได้
  2. แบบ Early Stage แบบนี้จะโตกว่าแบบแรก คือเริ่มมี product แล้ว มีคนใช้งานแล้ว แต่ต้องการโตมากกว่านี้ 5 เท่า 10 เท่า 20 เท่า ต้องการเพิ่มลูกค้า ต้องการทำ product ให้ดีขึ้นไปอีก ต้องการขยายตลาด การมาเข้า Accelerator ก็สามารถช่วย growth hack เร่งสปีดการเติบโตได้ อย่างตอนที่ airbnb เข้า Accelerator ที่ชื่อว่า YCombinator ในปี 2009 ก็อยู่ใน stage นี้

รูปแบบของโครงการ accelerator

ส่วนมากจะคล้ายๆ กัน ก็คือ

  1. เริ่มจากการรับสมัคร
  2. จากนั้นก็จะเป็นกระบวนการคัดเลือก ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป
  3. ถ้าผ่านก็จะได้เข้าร่วมโครงการ bootcamp 4 เดือน เข้ามาเรียน รับคำแนะนำ นำไปต่อยอดทำจริง วัดผลอย่างต่อเนื่อง อัพเดทกับ mentor ตลอดโครงการ
  4. ตอนจบโครงการจะมี demo day วันนำเสนอผลงาน ได้ pitch พูดพรีเซ้นท์ต่อหน้านักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ สื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆ คนในวงการ startup และบุคคลทั่วไป ได้ออกสื่อไม่ใช่แค่ในไทย แต่เป็นในระดับภูมิภาค เป็นโอกาสเปิดตัวที่ดีมากๆ การได้ออกสื่อจะช่วยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ทำให้เราหา partner และลูกค้าง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้

Accelerator มีแบบไหนบ้าง?

ตัวอย่าง Accelerator ดังๆ ในระดับโลก เช่น Techstars, YCombinator, 500 Startups ซึ่ง Accelerator เหล่านี้จะรับ startup แทบทุกประเภท ทุก industry

จะมี Accelerator อีกแบบ คือ แบบที่โฟกัสในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น

  • StormBreaker EdTech Accelerator เน้นเรื่อง startup การศึกษา
  • IndieBio โฟกัสไปที่ startup ที่เกี่ยวกับ biology ชีววิทยา มีความเป็น deep tech
  • China Accelerator โฟกัสว่าต้องเป็น startup ที่ตลาดจีนเท่านั้น

ซึ่งหากพูดถึงในไทย โครงการ dtac accelerate ก็เป็นโครงการ Accelerator บ่มเพาะสตาร์ทอัพแห่งแรกของไทย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2013 ปีนี้ก็เป็นรุ่นที่ 7 แล้ว เปิดรับสมัคร startup ทุก industry

สมัครเข้าร่วมโครงการ dtac accelerate Batch 7 ได้แล้ว วันนี้ - 16 เม.ย. 2562 https://accelerate.dtac.co.th/en/apply/login

ในช่วงครึ่งหลังของคลิปวิดิโอด้านบนนี้ CEO startup ไทยที่เคยเข้าร่วมโครงการ dtac accelerate ไปแล้วอย่าง Freshket, Drivemate, Tourkrub จะมาแชร์ว่าการเข้า Accelerator มันช่วยธุรกิจของพวกเค้ายังไงบ้าง ทำไมถึงโตได้ถึง 5-7 เท่าหลังจบโครงการ และมีการพาชมบรรยากาศ Hangar Co-working space ที่เป็นที่ทำงานของ startup ในโครงการ

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง