Nae Nae Montawan
Business Development Associate
เพราะ Disrupt คือ ครอบครัวที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุน และให้ความสำคัญกับ personal growth ของทุก ๆ คนในทีม ทำให้ทุกคนมีความสุขกับทุก ๆ เช้าที่ลืมตาตื่นขึ้นมาทำงาน..
สวัสดีค่ะ เนเน่ นางสาว มนตวัน ชัยรัชนีบูลย์ อายุ 19 ปี ตอนนี้ทำงานเป็น Business Development Associate ที่ Disrupt Technology Venture มาได้ 11 เดือนแล้วค่ะ :)
เนเน่ เรียนจบ high school จาก International School Bangkok (ISB) เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับให้ไปศึกษาต่อ ที่ University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เนเน่จึงตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตที่จะทำ Gap Year (พักการเรียน 1 ปี เพื่อหาประสบการณ์การทำงานในด้านที่ตัวเองสนใจ และเรียนรู้จากการทำงานจริง)
เนเน่เป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมตั้งแต่อยู่ high school และโฟกัสหลัก ๆ ของเนเน่ก็จะเป็นเรื่องการศึกษา การทำจิตอาสาเพื่อสังคม และเทคโนโลยี โดยเนเน่ได้เป็นผู้จัด English Service Project ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ ISB สอนภาษาอังกฤษให้กับ พี่ ๆ รปภ. พี่ ๆ พ่อครัวแม่ครัว พี่ ๆ ทำความสะอาด และ พี่ ๆ ที่คอยดูแลเด็กนักเรียนขึ้นรถบัส โดยเนเน่จะเป็นคน organize ตั้งแต่การออกแบบหลักสูตร จัดตารางสอน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปีที่เนเน่เรียนอยู่ที่นี่ มีพี่ ๆ ที่ผ่านโปรแกรมมากกว่า 70 คน และนักเรียน ISB ที่มาช่วยกันสอนอีกมากกว่า 50 คน ซึ่งเนเน่จะเป็นคนคอยบริหารจัดการ และเป็น TEDxYouth speaker ปี 2019
นอกจากนั้น เนเน่ยังเป็น co-founder ของ Inter-School Technology Conference งานสัมนาด้านเทคโนโลยีครั้งแรกของประเทศไทย ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับเด็ก high school ในประเทศไทย
หลังจากที่เนเน่มีโอกาสได้เห็น Disrupt (ซึ่งก่อตั้งโดย พี่กระทิง พูนผล) จัดงาน EdTech Hackathon ปี 2020 ที่ผ่านมานั้น เนเน่เห็นถึงความพยายามและความมุ่งมั่นที่ Disrupt จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการศึกษาและธุรกิจไทย ผนวกกับความสนใจด้านธุรกิจและ social impact ที่เนเน่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม Disrupt จึงเป็นบริษัทที่เนเน่คิดว่าจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ผ่านการลงมือทำจริง ๆ ได้เห็นมุมมองของทั้งการเป็น นักลงทุน และการทำงานร่วมกับ Early-Stage Startups รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่มากมายอย่างใกล้ชิด ซึ่งแตกต่างจากความคิดทั่ว ๆ ไปในการเป็น intern ที่อาจจะต้องคอยเสิร์ฟชา กาแฟ หรือถ่ายเอกสาร เนเน่จึงตัดสินใจสมัครเข้ามาที่นี่ค่ะ
Business Development หรือ BD คือตำแหน่งฝั่งธุรกิจของบริษัท โดยหน้าที่หลัก ๆ คือการมองหาโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ ประสานงานกับ partner ทำ pitch deck และ proposal เพื่อเสนอแพลนโปรเจคต่าง ๆ ให้กับ corporate partner และทำงานร่วมกับ startups ในพอร์ทค่ะ
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้งาน conference จำเป็นต้องจัดขึ้นในรูปแบบ virtual ซึ่งเป็นครั้งแรกของบริษัท และตัวเนเน่เอง โดยในงานนี้ เนเน่ได้รับความไว้วางใจจากพี่ ๆ ให้ช่วยดูแล และ support โปรเจคตั้งแต่ Day 1 ที่เข้าเริ่มทำงานเลย เพราะ assignment ตอนสมัครเข้ามาทำงานนั้น ก็เกี่ยวกับการหา sponsorship ให้งาน conference จึงทำให้เนเน่เข้ามารับหน้าที่เป็น project manager ของงานนี้ โดยมีพี่ ๆ ทีมงานดิสรัปท์คอยให้คำแนะนำและดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด
การที่เนเน่ได้เริ่ม เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนงานตั้งแต่แรก คือ การเลือก theme การเชิญ guest speaker การถ่ายทำ การหา sponsor การดูแล speaker และ user experience ของงานนี้ ซึ่งจัดขึ้นแบบออนไลน์เป็นระยะเวลาติดต่อกันสองสัปดาห์นั้น เนเน่ได้นำประสบการณ์จากการจัด conference ที่เคยทำ Inter-School Technology Conference งานสัมนาด้านเทคโนโลยี มาต่อยอดเป็น Virtual Conference ที่มีผู้เข้าชมจากทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 1,000 คน ซึ่งแน่นอนว่า การที่ได้มีโอกาสมาทำงานที่มี scale ใหญ่ได้ เป็นส่วนหนึ่งจากการเข้าร่วม meeting เพื่อ pitch โปรเจคกับ executives ของบริษัทต่าง ๆ เช่น TCP, AWS, กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา, DEPA, มูลนิธิใจกระทิง ฯลฯ ถือเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ๆ สำหรับเนเน่ และเมื่อได้เห็นทุก ๆ คนมารวมตัวกัน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อส่งเสริมการศึกษาไทย ทำให้เนเน่รู้สึกมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ
เนื่องจากDisrupt จัดโครงการ EdTech Accelerator ที่มีบริษัทสตาร์ทอัพด้านการศึกษาใน portfolio มากถึง 17 บริษัท (และคิดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปีค่ะ) โดยเนเน่ได้มีโอกาสเป็น portfolio manager ช่วยสตาร์ทอัพด้าน partner ต่าง ๆ ในการ scale ธุรกิจ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งของการจัด 10-week bootcamp ให้กับสตาร์ทอัพใน Batch 3 พร้อมคอยช่วยพี่ ๆ เรื่องการแนะนำแนวทางในการต่อยอดธุรกิจกับหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้รับโอกาสที่ดีมาก ๆ ในการเข้ามามีส่วนร่วมของวัน Pitch Day ในโครงการ StormBreaker Batch 4 เพื่อคัดเลือกและเฟ้นหาสตาร์ทอัพเข้าสู่โครงการในปี 2021 อีกด้วยค่ะ ซึ่งตลอดระยะเวลาของ Pitch Day นั้น เนเน่ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ จากทั้งมุมมองของนักลงทุน และมุมมองของสตาร์ทอัพ เพราะเราจะได้เข้าไป engage และเป็นพาร์ทเนอร์คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ตลอด
เนเน่ได้เข้าร่วมและจัด executive meeting เพื่อหา partnership ให้กับบริษัททั้งในไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Apple Education, Microsoft, Humanica, AWS, TikTok, Equitable Education Fund, BangkokPost, PostToday, International School Bangkok, University of Pennsylvania, Stanford ฯลฯ โดยเนเน่จะทำ pitch deck presentation เพื่อแนะนำบริษัท พร้อม research แนวทางการร่วมมือกันของพันธมิตรทุก ๆ ครั้ง โดยตัวอย่างการทำ partnership เช่น HawkEyeView Podcast Series ซึ่งเป็นการแนะนำเทรนด์ที่น่าจับตามองในโลกธุรกิจและสตาร์ทอัพไทยค่ะ
เนื่องจาก Disrupt เป็นพันธมิตรและมีความสัมพันธ์อันดีกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคด้านการศึกษา (กสศ.) จึงได้มีโอกาสร่วมกันจัด session ให้กับโครงการ Equity Partnership Project ที่ กสศ. ได้ร่วมมือกับโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ทำให้น้อง ๆ จากโรงเรียนไทยในเครือข่ายของ กสศ. ได้มีโอกาสเริ่มต้นฝึกทำธุรกิจ ประยุกต์สิ่งของในท้องถิ่นมาเป็นสินค้าที่สามารถขายได้จริงในโลกออนไลน์ โดยเนเน่ได้รับผิดชอบในส่วนของการ lead project รับ requirement เพื่อสอนเทคนิค digital marketing โดยมีพี่ ๆ ทีม disrupt คอย support ช่วยเสริมความรู้ และทำกิจกรรมร่วมกับน้อง ๆ ในโครงการที่มีจำนวนมากกว่า 60 คนค่ะ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Disrupt มีโอกาสได้ partner กับ Verso International School เพื่อร่วมจัดงาน Verso Hack 2021 ซึ่งเป็น hackathon สำหรับน้อง ๆ ระดับชั้นประถมถึงมัธยมครั้งแรกในประเทศไทย ที่จัดให้มีการ Pitching เป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าคณะกรรมการและนักลงทุนตัวจริง โดยเนเน่ได้เป็น facilitator ร่วมกับอีกหนึ่งพาร์ทเนอร์จากสิงคโปร์ อย่าง Reactor ในการสอนการ ideate, prototype, และ pitch business idea
นอกจากการเป็น EdTech Accelerator แล้ว Disrupt ยังเป็นผู้สอนสตาร์ทอัพ และจัดโปรแกรม Corporate Innovation ให้กับผู้นำองค์กรยักษ์ใหญ่มากมาย ซึ่งเนเน่ได้มีโอกาสดูแล in-house training program ช่วยพี่ ๆ ร่าง curriculum ให้กับหลายบริษัท โดยการทำ project เหล่านี้ ทำให้เนเน่ได้ reserach industry trends ต่าง ๆ เพื่อนำมาสร้างหลักสูตรที่เหมาะสมกับธุรกิจของบริษัทนั้น ๆ และเห็นถึงความสำคัญของการ Reskill พนักงานและผู้บริหารองค์กรใหญ่ ๆ ให้สามารถปรับตัวก้าวทันเทรนด์อนาคตต่าง ๆ ได้
อีกหนึ่งโปรเจคสำคัญของ Disrupt ซึ่งเป็นครั้งแรกของหลักสูตร Chief Exponential Officer ที่จัดขึ้นสำหรับ Top Executives ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารของธุรกิจขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ หรือ เจ้าของ SME ชั้นนำที่มียอดขายหลายร้อยล้านบาทจนถึงหลายพันล้านบาท รวมถึง Startup Founder ที่อยู่ในสเตจ Series-A รวมมากกว่า 70 คน ซึ่งเนเน่ได้มีโอกาสช่วยงานพี่กระทิงโดยตรงเพื่อ develop curriculum, สรุปหนังสือ และ case study ต่าง ๆ จากต่างประเทศ รวมถึงเตรียม Slide และเนื้อหาการสอนในคลาสเรียน
Disrupt ได้ให้โอกาสเนเน่ run โปรเจคใหญ่หลายโปรเจค โดยให้โอกาสเนเน่รันตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มตั้งแต่รับ requirement วางแผนโปรเจค develop curriculum/project roadmap จนถึง execution จัดงานจริง
- Knowledge Sharing Sessions
เนเน่มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากพี่ ๆ ในทีมเสมอ โดยทุก ๆ เย็นวันพฤหัสบดี จะมี knowledge sharing session ซึ่งทุกคนในบริษัทจะสลับหมุนเวียนกันมาให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะใหม่ ๆ หรือหนังสือดี ๆ ที่ได้อ่านมา ทำให้ที่ผ่านมา เนเน่ได้รับความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลาสสอนการลงทุนในสตาร์ทอัพ (VC101) ซึ่งสอนโดย พี่ทู Senior Investment Manager, คลาส Product Management สอนโดย พี่มิญช และ พี่พัช, คลาสการเตรียมตัวเป็น consult ในบริษัทระดับโลกอย่าง McKinsey & Company จากพี่หนุน, หรือคลาส Crypto 101 ที่ได้เชิญ expert ด้านการเทรดคริปโตมาสอน และ Investment 101 โดยพี่กระทิง ฯลฯ
- Exclusive Mentorship from P’Krating
การทำงานที่ Disrupt นั้น จะได้ทำงานใกล้ชิดกับพี่กระทิง ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งขณะนี้เป็นทั้ง Chairman ของ KBTG และ President of Technology ของ KBank อีกด้วยค่ะ โดยพี่กระทิงจะคอยแนะนำหนังสือดี ๆ ที่คัดมาให้แล้ว เพราะพี่กระทิงชอบอ่านหนังสือมาก ๆ และอ่านมาแล้วกว่า 1,000 เล่ม คอยสอนและอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าจำตามอง ทำให้เรามีความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ พี่ยุ้ยและพี่กระทิง ยังได้ช่วยจัด mentoring session แนะนำแนวทางการเรียนต่อ รวมถึงการทำงานในอนาคตให้อีกด้วยค่ะ
ที่ Disrupt นั้น มีความใกล้ชิดกับ 500Startups Thailand (หรือ 500TukTuks) มาก เนื่องจากพี่กระทิงเองก็เป็น co-founder ของ 500TukTuks และนอกจากนั้นยังมีพี่ ๆ senior investment manager ที่ช่วยดูแลงานให้กับทั้งสองบริษัทอีกเช่นกัน ดังนั้นการมาฝึกงานที่นี่จึงทำให้เนเน่ได้มีสองครอบครัวที่ใกล้ชิดมาก ๆ และทางบริษัทก็มักจะจัด outing ให้เราได้รู้จักและสนิทกันมากขึ้น ให้ความสำคัญกับ personal growth and well-being ของทุก ๆ คน โดยที่ผ่านมา เนเน่ได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่พัทยา, ไหว้พระขอพรที่อยุธยา, และเล่นกิจกรรมแบบไทย ๆ ที่นครปฐม ฯลฯ ทำให้เรายิ่งสนิทและทำงานด้วยกันได้อย่างดียิ่งขึ้นค่ะ
การทำงานที่นี่ พี่ ๆ ทุกคนใส่ใจ และดูแลดีมาก ๆ ทุกคนเห็นคุณค่าและความสามารถของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่พึ่งจะอายุ 19 ปี อีกทั้งยังช่วยผลักดันให้เติบโตและพัฒนาให้ได้ดีที่สุด
เนเน่อยากให้ทุกคนที่อ่านบทความนี้ได้เห็นว่า อายุ เป็นเพียงแค่ตัวเลข อย่าปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายต่าง ๆ หรือวิกฤติใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นโควิด-19 หรืออะไรก็ตาม มาปิดกั้นความสามารถของเรา ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้ พี่กระทิงพูดกับเนเน่อยู่เสมอว่า..
อย่าคิดว่ามันยาก หรือเป็นไปไม่ได้ ควรคิดว่า “what does it take” for me to get to where I want to be แล้วทำให้สิ่ง ๆ นั้นให้เป็นไปได้
และอีกประโยคที่เนเน่ยังจำได้ดี..
“no one is too small to make a difference” ถึงแม้ว่าจะอายุน้อย ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
การที่เนเน่ได้มาทำงานที่ Disrupt นั้น เป็นเพราะความพยายามขวนขวายหาโอกาสในช่วงที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติหนัก ซึ่งทำให้การไปเรียนต่อยังต่างประเทศของเนเน่นั้นต้องหยุดพักลงชั่วคราว แต่นี่กลับกลายเป็นโอกาสที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต
เพราะโอกาสนี้ทำให้เนเน่ได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองถนัด ได้ทำงานกับทีมที่น่ารักและพร้อมสนับสนุนเนเน่ตลอดเวลา เนเน่ไม่อยากให้ทุกคนทิ้งความหวัง หรือหมดหวังกับสิ่งต่าง ๆ แต่อยากให้ลุกขึ้นสู้เพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองรักและใฝ่ฝัน
ขอบคุณพี่ ๆ ที่ Disrupt, 500 TukTuks, Edtech startup และ partner ทุก ๆ คน ที่มองเห็นถึงศักยภาพของเด็กคนนี้ ให้โอกาสเนเน่ได้เข้ามา contribute กับวงการสตาร์ทอัพและธุรกิจไทย เป็นประสบการณ์ once-in-a-life-time experience จริง ๆ ซึ่งสิ่งที่เนเน่เขียนมาเล่าในวันนี้ เป็นเพียงแค่ภาพรวมใหญ่ ๆ ยังมีประสบการณ์อีกมากมายที่เนเน่ได้เรียนรู้จากการทำงานที่นี่ ขอบคุณพี่ ๆ ทุก ๆ คน ที่ทำให้ก้าวแรกในการทำงานของเนเน่เป็นก้าวที่แข็งแรง และเป็นก้าวที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ ทำให้เนเน่เชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ว่า
“no one is too small to make a difference” จริง ๆ ค่ะ
หวังว่าจะมีอีกหลายคนที่จะได้รับโอกาสดี ๆ ได้มา intern ที่นี่แบบนี้อีกค่ะ
สำหรับใครที่มี passion และมีความเป็น self-initiated learner อยากส่งเสริมและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย เนเน่แนะนำให้ลองสมัครไปที่ Disrupt ได้เลยนะคะ ส่ง CV หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านช่องทางลิงก์ที่เนเน่พิมพ์ไว้ให้นี้ได้เลยค่ะ >> https://www.disruptignite.com/careers
ส่วนใครที่อยากติดตามหรือพูดคุยเพิ่มเติมกับเนเน่ สามารถติดต่อเนเน่ตามลิงก์นี้ได้เช่นกันค่ะ >> www.linkedin.com/in/naenaemontawan
#LifeAtDisrupt #HappyWorkSpace