Pat Thitipattakul
Corporate Innovation Manager
สายเฮลตี้ห้ามพลาด มาชมผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ที่ Whole Foods Market ซุปเปอร์มาร์เก็ตของสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าท้องถิ่น และสินค้าออร์แกนิค ซึ่งเป็นจุดที่สร้างแบรนด์ให้เป็นที่โดดเด่น มีสาขากว่า 500 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอังกฤษ ยิ่งเทรนด์สุขภาพเริ่มมาแรง ยิ่งมีสินค้าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจที่นำมาจัดจำหน่าย
อันนี้เป็นสินค้าที่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน บังเอิญสังเกตว่าวางขายอยู่ในตู้เดียวกันกับไข่ไก่ออร์แกนิคเลยลองหยิบมาดู JUST Egg เป็นผลิตภัณฑ์เหลวที่ทำจากถั่วเขียว โดยให้มีรสชาติและลักษณะใกล้เคียงกับไข่ที่ถูกตีแล้ว นำไปใช้ทำอาหารอย่าง ออมเลต ไข่คน ข้าวผัดไข่ ไข่เจียว เฟรนช์โทสต์ หรือ วัฟเฟิล ทำง่าย เก็บง่าย ไม่ต้องตอกไข่ และสารอาหารมีคุณประโยชน์เท่าเทียมไข่ไก่ แต่ปราศจากคอเลสเตอรอล!
มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถทานไข่ไก่ได้ ได้แก่กลุ่มมังสวิรัติ กลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคความดัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการใช้สารเคมีในฟาร์มไก่ JUST Egg เป็นโปรตีนทางเลือกใหม่ที่ไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันต่ำกว่า เป็นผลิตภัณฑ์ไข่ทำจากพืชชิ้นแรกของโลก จำหน่ายในราคาขวดละประมาณ 250 บาท ซึ่ง 1 ขวดสามารถใช้ทำอาหารได้ 3 จานโดยประมาณ จัดว่าราคายังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไข่ไก่ปกติ แต่ก็ขายดีมากจนเริ่มมีแผนส่งออกไปทั่วโลก และในทางผู้บริหารก็ตั้งใจที่จะปรับราคาขายให้ต่ำลงเมื่อกระบวนการผลิตเข้าที่แล้ว เทรนด์ plant-based เองก็กำลังมาแรงจากกระแสของ Beyond meat และ Impossible burger ที่ออกสู่ตลาดทั่วโลกร่วมกับแบรนด์ร้านอาหารรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการแก้ปัญหามลพิษ carbon ที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ด้วย
เมื่อพูดถึงไข่เทียมแล้ว จะไม่พูดถึงเนื้อสัตว์เทียมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์ plant-based ในตลาดคงไม่ได้ Beyond meat เป็นแบรนด์ plant-based protein รายแรกของโลกที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2009 และได้รับเงินลงทุนจาก Bill Gates ปัจจุบันได้ IPO เข้าตลาดไปแล้ว
Beyond meat มี 3 ผลิตภัณฑ์หลักที่วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้แก่ ไส้กรอก เบอร์เกอร์ และเนื้อบด วางขายในตู้แช่เดียวกันกับเนื้อแบบทั่วไป ราคาอยู่ที่ $6-$12 ต่อแพค เทียบเป็นเงินไทย 180-360 บาทโดยประมาณ จัดว่ายังมีราคาสูงกว่าเนื้อสัตว์อยู่พอสมควร
จุดแข็งของผลิตภัณฑ์ คือ ไม่มี GMO ไม่มี gluten ดีต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ก่อตั้งมองว่านี่เป็น future of protein ที่จะมา disrupt อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำกว่า เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ทรมาณสัตว์ ปล่อยคาร์บอนต่อสิ่งแวดล้อม กลุ่มเป้าหมายของ Beyond meat ไม่ใช่แค่กลุ่มมังสวิรัติ แต่มองไปถึงกลุ่มคนทั่วไปที่ทานเนื้อสัตว์เป็นปกติ คนที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้จึงพยายามสร้างผลิตภัณฑ์หลายประเภทให้มีความใกล้เคียงเนื้อสัตว์มากที่สุด ล่าสุด ทำเมนูไก่(เทียม)ทอดร่วมกับ KFC ก็น่าสนใจว่าอนาคตจะมีอะไรใหม่ ๆ มาอีก
ผู้เขียนเอง ก็ได้ไปลองชิมเบอร์เกอร์ที่ทำจากเนื้อของ Beyond meat มาแล้ว รสชาติถือว่าใช้ได้ แต่ตัว texture ยังแห้ง ๆ อยู่ ไม่ได้นุ่มเหมือนเนื้อสัตว์ และราคายังแพงไปมาก เทียบกับ Impossible burger ที่เป็นคู่แข่งแล้ว ส่วนตัวคิดว่าของ Impossible รสชาติอร่อยกว่า เพราะว่าทำมาคล้ายเนื้อวัวมาก มีกลิ่นหอม แต่น่าสนใจว่ากลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติจะไม่ชอบของ Impossible เลยเพราะว่าเหมือนเนื้อสัตว์มากเกินไป
Upton’s Naturals ก่อตั้งในปี 2005 ด้วยความตั้งใจการผลิตอาหารแบบใหม่ที่เป็นโปรตีนทางเลือก ซึ่วตัวผู้ก่อตั้งเองก็เป็นมังสวิรัติ เพราะความสนใจเรื่องสิทธิของสัตว์ แบรนด์นี้มีความต่างจากแบรนด์ plant-based อื่นที่ได้กล่าวไปเพราะแบรนด์นี้เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นมังสวิรัติโดยเฉพาะ สังเกตว่าเขาใช้คำว่า Jackfruit ในการโปรโมทแบรนด์ ไม่ได้เน้นใช้คำเกี่ยวกับสัตว์เลย ในขณะที่แบรนด์ plant-based อื่นต้องการเจาะกลุ่มคนทั่วไปที่ทานเนื้อสัตว์ จึงต้องทำให้คนทั่วไปเข้าใจง่าย
ผลิตภัณฑ์ 1 กล่องราคา $5 เทียบเป็นเงินไทย 150 บาท ปริมาณ 300 กรัม นำไปทำอาหารได้หลายประเภท เช่น แซนด์วิช ทาโก ใส่ในสลัด ราดบนข้าว นอกจากรส BBQ แล้ว ก็มีการผลิตรสชาติอื่นออกมาอีก ได้แก่ รสซอสศรีราชา รสมะนาว รสแกงกะหรี่
น่าสนใจว่าแบรนด์เลือกใช้ขนุนเป็นวัตถุดิบหลัก ด้วย texture ที่คล้ายเนื้อสัตว์ ขนุนเป็นผลไม้ที่คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คุ้นเคยกันดี แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว ขนุน มีความแปลกใหม่มาก เป็นผลไม้ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยทาน ผู้ก่อตั้งเจอว่าคนเอเชียและอินเดียที่เป็นมังสวิรัตินำขนุนมาใช้ทำอาหารจึงสนใจลอง น่าตกใจว่ากระบวนการเก็บเกี่ยวขนุนทั้งหมดของ Upton’s Naturals อยู่ในฟาร์มที่ไทยนี้เอง
ในปี 2017 บริษัท eCommerce รายใหญ่ของโลก Amazon ได้ลงทุนซื้อกิจการ Whole Foods Market จึงมีการขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมและสะดวกสบายในแบบผสมผสาน offline และ online จากที่ได้ไปเดินเล่นที่ Whole Foods Market มา เห็นได้ชัดเลยว่ามีการผูกหลายส่วนเข้ากับบริการของ Amazon เช่น
Amazon Meal Kits เองก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่น่าสนใจที่มีขายออนไลน์และวางขายที่ Whole Foods Market ซึ่ง Amazon Meal Kits คือ ชุดวัตถุดิบสำหรับทำอาหารตามเมนูหน้ากล่อง ภายใต้คอนเสปต์ We do the prep. You be the chef. แก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกให้คนที่ชอบทำอาหารเอง ชอบอาหารปรุงสดใหม่ แต่ไม่มีเวลามาเตรียมเมนู ซื้อวัตถุดิบ จัดเตรียมวัตถุดิบเอง ภายในกล่องมีเมนูที่ออกแบบโดยเชฟ มีขั้นตอนการทำอธิบายชัดเจนพร้อมภาพประกอบสวยงาม ผักในกล่องเองก็หั่นมาแล้ว ชั่งตวงมาตามสูตรของเชฟ การันตีว่าทำเสร็จภายใน 30 นาทีแน่นอน 1 กล่องทำอาหารได้สำหรับ 2 คน ราคาประมาณ $15-$20 คิดเป็นเงินไทย 450-600 บาท ถือเป็นราคาตามปกติของราคาอาหารที่นั่น
ที่ Whole Foods Market มีชั้นวางหนึ่งที่ทั้งแผงเป็นขนมที่ทำจากผัก ผลไม้หมดเลย มีหลากหลายมากจนเลือกไม่ถูก เป็นตัวเลือกการทานขนมที่น่าสนใจโดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบทานขนมแต่กลัวอ้วน อยากรักษาสุขภาพ เพราะแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง โปรตีนสูง ตัวอย่างขนมที่น่าสนใจ ได้แก่
Whole Foods Market มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายมาก แต่หลายอย่างก็คล้ายกับที่มีในไทยแล้ว เช่น เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน ในที่นี้จึงจะเลือกมาเพียง 2 ชนิดที่ยังไม่ได้รับความนิยมในไทยมากนัก แต่ได้รับความสนใจอย่างมากในสหรัฐอเมริกา
ติดตามข่าวสารความรู้ในวงการสตาร์ทอัพได้ทางเพจ Disrupt Technology Ventureและพบกันที่งาน Education Disruption Conference 2020: Reimagine Thailand’s Education 2030, Virtual Conference ที่จะพาทุกคนมาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของการศึกษาไทยที่กำลังจะเกิดขึ้น ผ่าน Content สุด exclusive จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมากมาย พร้อมทั้งฟังประสบการณ์ จาก EdTech Startups และ Social Entrepreneurs ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ ที่นี่